สปริงจาน
สปริงจาน (Disc Springs)
สปริงชนิดนี้มีลักษณะเป็นจานรูปทรงกรวย ซึ่งรูปทรงกรวยนี้สามารถนำมาจัดวางเรียงกันเพื่อให้มีความยืดหยุ่นตามคุณสมบัติของสปริง โดยสามารถวางซ้อนกันหลายตัวในทิศทางเดียวกันหรือสลับกันได้ สปริงจานอาจมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า Belleville Washer / Belleville Spring ซึ่งตั้งตามชื่อของนักประดิษฐ์ Julian F. Belleville คุณสมบัติของสปริงจานมีลักษณะเฉพาะในการใช้งานในพื้นที่จำกัดแต่ต้องการรับแรงสูง และมีการเคลื่อนที่หรือการโก่งตัวของสปริงที่น้อยมาก ปัจจุบันรูปแบบที่ใช้กันมากที่สุดของสปริงจานคือรูปแบบที่มีหรือไม่มีหน้าสัมผัสเรียบ ในขณะที่รูปแบบอื่นๆ เช่น สปริงจานที่มีหน้าตัดสี่เหลี่ยมคางหมู ไม่ได้เป็นที่นิยมใช้กันในปัจจุบันแล้ว
สปริงชนิดนี้มีลักษณะเป็นจานรูปทรงกรวย ซึ่งรูปทรงกรวยนี้สามารถนำมาจัดวางเรียงกันเพื่อให้มีความยืดหยุ่นตามคุณสมบัติของสปริง โดยสามารถวางซ้อนกันหลายตัวในทิศทางเดียวกันหรือสลับกันได้ สปริงจานอาจมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า Belleville Washer / Belleville Spring ซึ่งตั้งตามชื่อของนักประดิษฐ์ Julian F. Belleville คุณสมบัติของสปริงจานมีลักษณะเฉพาะในการใช้งานในพื้นที่จำกัดแต่ต้องการรับแรงสูง และมีการเคลื่อนที่หรือการโก่งตัวของสปริงที่น้อยมาก ปัจจุบันรูปแบบที่ใช้กันมากที่สุดของสปริงจานคือรูปแบบที่มีหรือไม่มีหน้าสัมผัสเรียบ ในขณะที่รูปแบบอื่นๆ เช่น สปริงจานที่มีหน้าตัดสี่เหลี่ยมคางหมู ไม่ได้เป็นที่นิยมใช้กันในปัจจุบันแล้ว
คุณสมบัติที่สำคัญของสปริงจาน มีดังนี้
- สามารถรองรับโหลดมากๆได้ด้วยพื้นที่ติดตั้งขนาดเล็ก
- มีความแข็งแรง ทนทาน อายุการใช้งานยาวนานหากใช้ขนาดของสปริงอย่างเหมาะสม
- การวางสปริงจานซ้อนในทิศทางเดียวกันซึ่งจะทำให้สปริงแข็งขึ้น ตรงกันข้ามหากวางสปริงจานในทิศทางสลับกันจะส่งผลให้การโก่งตัวของสปริงเพิ่มมากขึ้นซึ่งทำให้สปริงอ่อนลง ดังนั้นการวางทิศทางของสปริงจานแบบผสมผสานทำให้สามารถปรับแต่งค่าคงที่ของสปริงให้มีความเหมาะสมกับการใช้งานได้
